



พระพุทธสรีระ
ศากยบุตรสามเณรสีหะ ๑๗๙ รูป
วันอัฏฐมีบูชา…วันสุดท้าย
พระพุทธสรีระ
ของพระพุทธองค์ในโลกนี้ ![]()
(ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6)
“…แม้พระพุทธเจ้าก็ยังต้องดับขันธ์ไป
พระธรรมเท่านั้นจักเป็นที่พึ่งตลอดกาล…”
เมื่อดอกไม้จันทน์จุดขึ้นในเมืองกุสินารา…
เมื่อเปลวไฟแห่งการถวายพระเพลิงพระบรมศพลุกโชติช่วง
นั่นมิใช่เพียงวันสุดท้ายของพระพุทธเจ้าในโลกนี้
แต่คือจุดเริ่มต้นของ “พระธรรม” ที่ไร้รูป แต่เต็มด้วยแสง
ความหมายของวันอัฏฐมีบูชา
“อัฏฐมี” แปลว่า “วันที่แปด”
วันอัฏฐมีบูชา ตรงกับ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 (หรือเดือน 7 ในปีอธิกมาส)
คือวันที่ ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลังจากพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วครบ 7 วัน ณ เมืองกุสินารา
ความสำคัญของวันอัฏฐมีบูชา
คือ เหตุการณ์ทางพุทธประวัติที่สะเทือนใจที่สุด
วันแห่งการอำลาร่างของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
เป็น จุดเปลี่ยนจากพระพุทธเจ้าผู้มีพระสรีระ
สู่พระธรรมที่ไร้รูป แต่มีชีวิตอยู่ในใจสัตว์โลก
เตือนใจให้ระลึกว่า
แม้พระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ไม่สามารถหลีกพ้น ไตรลักษณ์
“อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา”
ส่งเสริมให้เราตั้งมั่นในการปฏิบัติตามพระธรรม
ก่อนที่เปลวไฟชีวิตของเราจะดับไปเช่นกัน
วันอัฏฐมีบูชา จึงเป็นวันแห่ง มรณานุสติ อันลึกซึ้ง
เป็นวันแห่งการ ปลงสังขาร เพื่อปลุกสติตื่นรู้ว่า
“ชีวิตนี้สั้นนัก… เราจะใช้มันเพื่อเดินตามรอยพระศาสดาหรือไม่?”
เหล่าศากยบุตรสามเณรสีหะ
ร่วมใจสักการะบูชาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ดับขันธ์
ในวันอัฏฐมีบูชา
ณ มหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย
สถานศึกษาที่ธำรงพระธรรมวินัย ดำรงไว้ซึ่งมรรคาแห่งนิพพาน
สวดมนต์ เจริญจิตภาวนา เวียนเทียน และบำเพ็ญกุศลถวาย
แด่พระบรมศาสดาผู้เป็นที่รักของชาวโลก
เพราะทุกลมหายใจคือโอกาสสุดท้าย…
ก่อนเราจะไม่มีวันได้ “ไหว้พระพุทธเจ้าในโลกนี้” อีกเลย
