หลวงพ่อพระมหาบรรจบ | ตอนที่ ๕
สมาธิ ฌาน สมาบัติ ?
<<<>>>
อาจารย์สวัสดิ์ พุ่มมาก เล่าต่อว่า
“คณะที่ไปทั้งหมด พร้อมน้องเก่งเด็กในพื้นที่อีกคน ได้ปรึกษากันแล้ว เห็นร่วมกันว่า ต้องปีนรั้วเข้าไป ประตูปิดล้อค ต้องงัดกุฏิเข้าไป พันตำรวจตรีเอนก สั่งให้ทุกคน ห้ามจับสิ่งใด ๆ ภายในบ้าน จนกว่าจะพบหลวงพ่อ”
“เมื่องัดเข้าไปแล้ว สิ่งที่ทุกคนต้องตะลึง คือ ภาพที่เห็น หลวงพ่อนั่งสมาธิภายในห้องโถงที่มีพระประธาน เบื้องหน้า ทุกคนโล่งอก เบาใจ แต่ท่านยังมีชีวิตอยูไหม พวกผมปรึกษากัน”
“พันตำรวจตรีเอนก ยังสั่งห้าม ไม่ให้แตะตัวหลวงพ่อ ห้ามจับแตะต้องสิ่งใด ๆ เดินดูภายในห้องเผื่อเห็นคราบเลือด หรือร่องรอยการต่อสู้ใด ๆ เพราะหลวงพ่อที่นั่งอยู่นั้น อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ เมื่อมั่นใจว่า ทุกอย่างปกติแล้ว ทุกคนมานั่งต่อหน้าหลวงพ่อ เพื่อพิสูจน์ว่า หลวงพ่อ ยังมีชีวิตอยู่”
“ขจร ฐานะงาม เป็นผู้พิสูจน์ เอานิ้วมือไปใกล้ ๆ ใต้จมูก อยู่นานมาก จึงบอกว่า ท่านหายใจอยู่ พันตำรวจตรีเอนก มาพิสูจน์ เส้นชีพจรที่คอ ผมอยู่ข้างนอก กลัวทำใจไม่ได้หากพบว่าท่านเป็นอะไรไป ผมน้ำตาไหลพราก เมื่อทุกคนออกมาจากกุฏิแจ้งผมว่า หลวงพ่อยังอยู่ ใคร ๆ ก็บอกว่า ท่านไม่เปิดประตูรับใครง่าย ๆ ผมคิดว่า นี่อาจจะเป็นสาเหตุหลัก คือ มาพบท่านช่วงเวลาท่านนั่งสมาธิ”
“ท่านคงเข้าฌานแน่ ๆ” ผมทักขึ้นขณะอาจารย์สวัสดิ์เล่า
“ทุกคนถ่ายภาพท่าน โดยให้ปิดแฟลช” อาจารย์สวัสดิ์เล่า พร้อมกับค้นภาพที่เก็บไว้ในโทรศัพท์แล้วก็ส่งเข้าเครืองผม
“พวกผมได้กราบลาท่าน พร้อมมอบหมายให้น้องเก่ง เด็กในพื้นที่ ให้เข้ามาดูกุฏิหลวงพ่อ ทุกเช้า – เย็น จากการคาดการณ์ระยะเวลา สอบถามชาวบ้านที่ทำนาทำสวน จะไม่เห็นหลวงพ่อเดินรอบที่ ตั้งแต่วันที่ ๔ พฤศจิกายน”
“ผมไปเช้า ๘ พฤศจิกายน งัดกุฏิเข้าไปดูคืนนั้น วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ผมก็ไปอีกครั้ง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ท่านก็ยังไม่ออกมา จนวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน น้องเก่ง จึงโทรบอก เห็นหลวงพ่อแล้ว”
“ท่านเจ้าคุณครับ เรื่องสร้างโรงเรียน มีพระมีเณรมาอยู่มาเรียนนี่ ท่านก็พูดตลอด เวลาพบท่าน …สวัสดิ์ ต่อไป ที่นี่ จะมีพระเณรมาอยู่มาเรียนเป็นร้อย จะมีผู้มีศักดิ์มาสร้างให้… ผมก็เคยบอกท่าน ใครเขาจะมาอยู่กลางทุ่งนากันดารแบบนี้ ด้วยความที่ท่านเข้าสู่วัยชรา ๖๕ แล้ว ไม่อยากเห็นท่านตลอน ๆ ไปดูต้นไม้มุมโน้นมุมนี้ ผมอยากให้ท่านอยู่เฉย ๆ ยามวัยชรา”
อาจารย์สวัสดิ์ พูดด้วยความเป็นห่วงมาก ๆ
…………………..
ผมอยากจะเขียนแทรกไว้ตรงนี้ ครับ ในช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่เจ้าของที่ดินที่จะทำการซื้อขาย ได้แจ้งให้ผมทราบว่า การซื้อขายที่แปลงนี้ซึ่งเป็นแปลงใหญ่ ๒๕ ไร่ ขอแบ่งโฉนดออกมาก่อนเพื่อต้องการระบุให้ชัดเจนในสัญญาซื้อขาย จึงกำหนดนัดชี้หมุดเขต ในช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่การชี้หลักหมุดเขตครั้งแรก ก็ต้องเลื่อนออกไป เพราะหาหลักหมุดไม่เจอ ฝนตกชุกมาก มีน้ำขังบางจุด ซึ่งลำบากในการเดินลุยน้ำ เจ้าของที่จึงขอนัดใหม่ ในช่วงปลายเดือนมกราคม
ผมไม่อยากบอกว่า หลวงพ่อท่านทำสมาธิเข้าฌานสมาธิอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มาสร้างโรงเรียนในที่ของท่าน ทำให้การซื้อที่ที่ติดกับ มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆส มีปัญหายังไม่สามารถวางมัดจำซื้อขายได้ ท่านพันโทไพโรจน์ ก็โทรสอบถามมาเป็นระยะ “ไม่ต้องรีบร้อน ถ้าจะเป็นของเราเทวดาท่านจะช่วยเอง”
………………
เมื่อคุยกันได้พอสมควรแล้ว ท่านเจ้าคุณพระเทพสุวรรณเมธี จึงได้ทำการนัดหมาย อาจารย์สวัสดิ์ พุ่มมาก ให้พาไปพบหลวงพ่อในวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มีนาคม ก่อนกลับ ท่านเจ้าคุณพระเทพสุวรรณเมธี ได้มอบพระพุทธรูป “พระพุทธบาฬีศรีพุทธโฆส” ให้อาจารย์สวัสดิ์ พร้อมพูดลาว่า “จงสำเร็จ จงสำเร็จ”
“เวทย์ ว่างไหม เราไปดูที่กันเลย ไปวันนี้แหละ” ท่านเจ้าคุณพระเทพสุวรรณเมธีถามผมขณะอยู่บนรถ
“ไปเลยเหรอครับ”
“ต้องไป ต้องไปวันนี้”
มีอะไรที่ทำให้ต้องรีบไปตอนนี้เลย ร่วม ๗๐ – ๘๐ กิโล จาก กทม
“ไปครับ ไป ! ถ้าเจอเข้าฌานสมาธิ ยิ่งดีเลย”